PRIVACY POLICY

 

                                                      ประกาศมา ณ วันที่ 19 พฤษภาคม 2565

                                                                 

                                                             (นายเศรษฐไชย ชื่นสายชล)
                                                                   กรรมการผู้จัดการ
                                                               บริษัท ยูนิทีวีเวล จำกัด

 

บริษัท ยูนิทีวีเวล จำกัด ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ บริษัทฯ ขอแนะนำให้ผู้ใช้งานทำความเข้าใจนโยบายส่วนบุคคล (privacy policy) นี้ เนื่องจากนโยบายนี้อธิบายถึงวิธีการที่บริษัทฯปฏิบัติต่อข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งาน เช่น การเก็บรวบรวม การจัดเก็บรักษา การใช้ การเปิดเผย รวมถึงสิทธิต่างๆของผู้ใช้งาน เป็นต้น เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับทราบถึงนโยบายในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ บริษัทฯจึงประกาศนโยบายส่วนบุคคล ดังต่อไปนี้

1.1 การจัดเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล จะกระทำโดยมี วัตถุประสงค์ ขอบเขต และใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรม ในการเก็บรวบรวมและจัดเก็บข้อมูล ตลอดจนเก็บรวบรวม และจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลอย่างจำกัดเพียงเท่าที่จำเป็นแก่การให้บริการ หรือบริการด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์อื่นใดภายใต้วัตถุประสงค์ของบริษัทเท่านั้น ทั้งนี้บริษัทจะดำเนินการให้เจ้าของข้อมูล รับรู้ ให้ความยินยอม ทางอิเล็กทรอนิกส์ ข้อความสั้น (Short Message Service) หรือตามแบบวิธีการของบริษัทฯ

1.2 บริษัทจะขอความยินยอมจากผู้ใช้งานก่อนทำการเก็บรวบรวม เว้นแต่
1) เป็นกรณีที่กฎหมายกำหนด เช่น พระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคม พระราชบัญญัติว่า
ด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เป็นต้น
2) เป็นไปเพื่อประโยชน์ของผู้ใช้งาน และการขอความยินยอมไม่อาจกระทำได้ในเวลานั้น
3) เป็นไปเพื่อประโยชน์เกี่ยวกับชีวิต สุขภาพ หรือความปลอดภัยของผู้ใช้งานและ/หรือผู้ใช้งานรายอื่น
4) เพื่อประโยชน์แก่การสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรือการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล
5) เพื่อใช้ในการให้บริการ และปรับปรุงบริการของบริษัทฯ
6) เพื่อประโยชน์ในการศึกษา วิจัย การจัดทำสถิติ หรือ เพื่อประโยชน์สาธารณะ

1.3 บริษัทฯ จะไม่จัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานซึ่งเกี่ยวกับ Sensitivity data เช่น ลักษณะทางพันธุกรรม พฤติกรรมทางเพศ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลในลักษณะเดียวกัน รวมถึงข้อมูลที่อาจเป็นผลร้าย ทำให้เสียชื่อเสียง หรืออาจก่อให้เกิดความรู้สึกเกี่ยวกับการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมหรือความไม่เท่าเทียมกันแก่บุคคลใด เว้นแต่
1) ได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากผู้ใช้งาน
2) เป็นกรณีที่กฎหมายกำหนด เช่น พระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคม พระราชบัญญัติ
ด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เป็นต้น
3) เป็นไปเพื่อประโยชน์ของผู้ใช้งาน และการขอความยินยอมไม่อาจกระทำได้ในเวลานั้น
4) เป็นไปเพื่อประโยชน์เกี่ยวกับชีวิต สุขภาพ หรือความปลอดภัยของผู้ใช้งาน และ/หรือผู้ใช้บริการ
ผู้ใช้งานอื่น
5) เพื่อประโยชน์แก่การสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรือการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล
6) เพื่อประโยชน์ในการศึกษา วิจัย หรือการจัดทำสถิติ หรือ เพื่อประโยชน์สาธารณะ

1.4 คุณภาพของข้อมูลส่วนบุคคล
ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานหรือผู้ใช้บริการที่บริษัทฯได้รับมา ซึ่งสามารถบ่งบอกตัวบุคคลของผู้ใช้งานได้ และเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความสมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน จะถูกนำไปใช้ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์การดำเนินงานของบริษัทฯเท่านั้น และบริษัทฯจะดำเนินมาตรการที่เข้มงวดในการรักษาความมั่นคงปลอดภัย ตลอดจนการป้องกันมิให้มีการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้โดยมิได้รับอนุญาตจากผู้ใช้งานก่อน

บริษัทฯ รวบรวม จัดเก็บ ใช้ ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานหรือผู้ใช้บริการ เพื่อการดำเนินงานของบริษัทฯในการให้บริการด้านการซื้อขายสินค้าและบริการ วิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของการดำเนินงานของบริษัทฯ และเพื่อปรับปรุงคุณภาพของการให้บริการของบริษัทให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

บริษัทฯจะใช้ข้อมูลที่รวบรวมจากฝ่ายขายและเว็บไซต์ของบริษัท เพื่อให้บริการ บำรุงรักษา ป้องกัน ปรับปรุง พัฒนาบริการใหม่ๆ และปกป้องบริษัทฯและผู้ใช้งาน ตลอดจนเพื่อนำเสนอเนื้อหาที่ได้รับการปรับแต่ง (Customize) ให้เหมาะสมกับการใช้งานของผู้ใช้งานโดยเฉพาะ เช่น แสดงผลการค้นหาที่เกี่ยวข้องกับผู้ใช้งาน แสดงโฆษณาประชาสัมพันธ์บริการที่ผู้ใช้งานอาจสนใจและเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งาน

นอกจากนี้เมื่อผู้ใช้งานติดต่อมายังบริษัทฯ บริษัทฯอาจเก็บบันทึกข้อมูล การสมัครสมาชิก ชื่อสกุล บริษัท ที่อยู่ อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ ปัญหาหรือข้อเสนอแนะของผู้ใช้งานหรือผู้ใช้บริการ เพื่อนำมาใช้ในการนำเสนอและแนะนำสินค้าและบริการ ให้คำปรึกษา และเพื่อปรับปรุงและพัฒนาการให้บริการของบริษัท และแจ้งให้ผู้ใช้งานทราบผ่านทางช่องทางการติดต่อที่ผู้ใช้งานหรือผู้ใช้บริการ แจ้งไว้

หากภายหลังมีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯจะประกาศให้ผู้ใช้งานทราบ โดยการแจ้งล่วงหน้าให้ผู้ใช้งานทราบก่อน 15 วัน โดยการส่งทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หรือประกาศไว้ในหน้าแรกของเว็บไซต์ เว้นแต่กฎหมายจะกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น

 

2.1 ข้อมูลที่รวบรวมและเหตุผลที่รวบรวม
การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
เราจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับโดยตรงจากผู้ใช้งานหรือผู้ใช้บริการ

 

ผ่านฝ่ายขาย เช่น
- ชื่อ-สกุล
- ชื่อบริษัท
- ตำแหน่งงาน
- ที่อยู่
- เลขประจำตัวประชาชน
- วัน/เดือน/ปีเกิด
- หมายเลขโทรศัพท์
- ID Line
- อีเมล

 

ผ่าน Form บน Website ดังต่อไปนี้
- ข้อมูลการสมัครสมาชิก
- ชื่อ-สกุล
- ชื่อบริษัท
- ที่อยู่
- หมายเลขโทรศัพท์
- อีเมล
- ปัญหาหรือข้อเสนอแนะต่างๆ

 

ประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม
- ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ นามสกุล อายุ วันเดือนปีเกิด สัญชาติ เลขประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง เป็นต้น
- ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล เป็นต้น
- ข้อมูลบัญชี เช่น บัญชีผู้ใช้งาน ประวัติการใช้งาน เป็นต้น
- หลักฐานแสดงตัวตน เช่น สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง เป็นต้น
- ข้อมูลการทำธุรกรรมและการเงิน เช่น ประวัติการสั่งซื้อ รายละเอียดบัตรเครดิต บัญชีธนาคาร เป็นต้น
- ข้อมูลทางเทคนิค เช่น IP Address, Cookie ID, ประวัติการใช้งานเว็บไซต์ (Activity Log) เป็นต้น
- ข้อมูลอื่น ๆ เช่น รูปภาพ ภาพเคลื่อนไหว และข้อมูลอื่นใดที่ถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

 

เทคโนโลยีติดตามตัวบุคคล (COOKIES)
เพื่อเพิ่มประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้งานหรือผู้ใช้บริการให้สมบูรณ์และมีประสิทธิภาพมากขึ้น บริษัทฯ ได้ใช้คุกกี้ (Cookies) หรือเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกัน เพื่อพัฒนาการเข้าถึงสินค้าหรือบริการ โฆษณาที่เหมาะสม และติดตามการใช้งานของคุณ บริษัทฯเลือกใช้คุกกี้เพื่อระบุและติดตามผู้ใช้งานเว็บไซต์และการเข้าถึงเว็บไซต์ของบริษัท หากผู้ใช้งานหรือผู้ใช้บริการไม่ต้องการให้มีคุกกี้ไว้ในคอมพิวเตอร์ของคุณ ผู้ใช้งานหรือผู้ใช้บริการสามารถตั้งค่าบราวเซอร์เพื่อปฏิเสธคุกกี้ก่อนที่จะใช้เว็บไซต์ของบริษัทฯได้

 

ผู้เยาว์
หากผู้ใช้งานหรือผู้ใช้บริการมีอายุต่ำกว่า 20 ปีหรือมีข้อจำกัดความสามารถตามกฎหมาย บริษัทฯอาจเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานหรือผู้ให้ข้อมูล บริษัทฯอาจจำเป็นต้องให้พ่อแม่หรือผู้ปกครองให้ความยินยอมหรือที่กฎหมายอนุญาตให้ทำได้ หากบริษัททราบว่ามีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากผู้เยาว์โดยไม่ได้รับความยินยอมจากพ่อแม่หรือผู้ปกครอง บริษัทฯจะดำเนินการลบข้อมูลนั้นออกจากเซิร์ฟเวอร์ของบริษัท

เราจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในรูปแบบเอกสารและรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ดังต่อไปนี้
- ผู้ให้บริการเซิร์ฟเวอร์ในประเทศไทย
- Server ของ google

เราจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
- เพื่อสร้างและจัดการบัญชีผู้ใช้งาน
- เพื่อจัดส่งสินค้าหรือบริการ
- เพื่อปรับปรุงสินค้า บริการ หรือประสบการณ์การใช้งาน
- เพื่อการบริหารจัดการภายในบริษัท
- เพื่อการตลาดและการส่งเสริมการขาย
- เพื่อการบริการหลังการขาย
- เพื่อรวบรวมข้อเสนอแนะ
- เพื่อชำระค่าสินค้าหรือบริการ
- เพื่อปฏิบัติตามข้อตกลงและเงื่อนไข (Terms and Conditions)
- เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบของหน่วยงานราชการ
- เพื่อใช้วิเคราะห์ข้อมูลในด้านต่างๆที่เกียวข้องกับเว็บไซต์ โดยใช้ Google Analytics

2.2 การเปิดเผยและใช้งานข้อมูลส่วนบุคคล
ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานหรือผู้ใช้บริการที่บริษัทฯ ได้รับ ซึ่งสามารถบ่งบอกตัวบุคคลของผู้ใช้งานหรือผู้ใช้บริการได้ และเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความสมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน จะถูกนำไปใช้ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์การดำเนินงานของบริษัทฯเท่านั้น และบริษัทฯ จะดำเนินมาตรการที่เข้มงวดในการรักษาความมั่นคงปลอดภัย ตลอดจนการป้องกันมิให้มีการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้โดยมิได้รับอนุญาตจากผู้ใช้งานก่อน

บริษัทฯ จะใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานได้ ตามความยินยอมของผู้ใช้งานโดยจะต้องเป็นการใช้ตามวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม จัดเก็บ ข้อมูลของบริษัทเท่านั้น

บริษัทฯจะดูแลให้ผู้ปฏิบัติงานของบริษัทมิให้เปิดเผย แสดง หรือทำให้ปรากฏในลักษณะอื่นใดซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานนอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์หรือต่อบุคคลภายนอก เว้นแต่

1) เป็นกรณีที่กฎหมายกำหนด เช่น พระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคม พระราชบัญญัติว
ด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เป็นต้น
2) ได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากผู้ใช้งาน
3) เป็นไปเพื่อประโยชน์เกี่ยวกับชีวิต สุขภาพ หรือความปลอดภัยของผู้ใช้งานและ/หรือผู้ใช้บริการอื่น
4) เพื่อประโยชน์แก่การสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรือการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล
5) เพื่อประโยชน์ในการศึกษา วิจัย หรือการจัดทำสถิติ หรือ เพื่อประโยชน์สาธารณะ

บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานหรือผู้ใช้บริการภายในบริษัทฯ เท่าที่จำเป็นเพื่อปรับปรุงและพัฒนาสินค้าหรือบริการของบริษัทฯ บริษัทฯ อาจรวบรวมข้อมูลภายในสำหรับสินค้าหรือบริการต่าง ๆ ภายใต้นโยบายนี้เพื่อประโยชน์ของผู้ใช้งาน ผู้ใช้บริการ และผู้อื่นมากขึ้น

บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานหรือผู้ใช้บริการบางอย่างให้กับผู้ให้บริการของบริษัทฯเท่าที่จำเป็นเพื่อดำเนินงานในด้านต่าง ๆ เช่น การชำระเงิน การตลาด การพัฒนาสินค้าหรือบริการ เป็นต้น ทั้งนี้ ผู้ให้บริการมีนโยบายความเป็นส่วนตัวของตนเอง

บริษัทฯ อาจแบ่งปันหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานกับบริษัทในเครือ ตลอดจนคู่สัญญาที่มีหน้าที่บริหารจัดการเว็บไซต์ตามสัญญากับบริษัทฯโดยตรง หรือบริษัทอื่นที่มีนโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้บริการ บำรุงรักษา ป้องกัน ปรับปรุง พัฒนาบริการใหม่ๆ และปกป้องบริษัทและผู้ใช้งาน ตลอดจนเพื่อนำเสนอเนื้อหาที่ได้รับการปรับแต่ง (Customize) ให้เหมาะสมกับการใช้งานของผู้ใช้งานโดยเฉพาะ เช่น แสดงผลการค้นหาที่เกี่ยวข้องกับผู้ใช้งาน แสดงโฆษณาประชาสัมพันธ์บริการที่ผู้ใช้งานอาจสนใจและเป็นประโยชน์แก่ผู้ใช้งาน โดยดำเนินการตามคำแนะนำและสอดคล้องตามนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ รวมถึงมาตรการการรักษาข้อมูลที่เป็นความลับและการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม

บริษัทฯ ตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานหรือผู้ใช้บริการ บริษัทฯจึงกำหนดให้มีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสมและสอดคล้อง กับการรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ แปลง แก้ไขหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่มีสิทธิหรือโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยให้เป็นไปตามที่กำหนดในนโยบายเรื่องการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลสารสนเทศของบริษัทฯ ทั้งนี้

บริษัทฯได้จำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลไว้เฉพาะกับพนักงาน ลูกจ้าง และตัวแทนของบริษัทฯ ที่มีความจำเป็นต้องเข้าถึงข้อมูลนั้นๆ (Need to Know Basis) เพื่อทำการประมวลผลข้อมูล โดยที่บุคคลดังกล่าวนั้น จะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดเกี่ยวกับการรักษาข้อมูลที่เป็นความลับตามสัญญาอย่างเคร่งครัด หากฝ่าฝืนจะมีบทลงโทษขั้นรุนแรง และต้องมีการทบทวน ปรับปรุงมาตรการ เมื่อพบว่ามีความเสี่ยง หรือมีความไม่สอดคล้องกับข้อกำหนดของกฎหมาย
บริษัทฯได้กำหนดมาตรการที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการละเมิด มีการตรวจสอบ และรายงานผลการละเมิด โดยถ้ามีการละเมิดทางบริษัทจะแจ้งคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลภายใน 72 ชั่วโมง นับแต่ทราบเหตุเท่าที่สามารถกระทำได้ ในกรณีที่การละเมิดมีความเสี่ยงสูงที่จะมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของผู้ใช้งานหรือผู้ใช้บริการ บริษัทฯ จะแจ้งการละเมิดให้ผู้ใช้งานหรือผู้ใช้บริการทราบพร้อมกับแนวทางการเยียวยาโดยไม่ชักช้าผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์ ข้อความ (SMS) อีเมล โทรศัพท์ จดหมาย เป็นต้น

บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานหรือผู้ช้บริการไว้ตามระยะเวลาที่จำเป็นในระหว่างที่ผู้ใช้งานหรือผู้ใช้บริการเป็นลูกค้าหรือมีความสัมพันธ์กับบริษัทฯ หรือตลอดระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับนโยบายฉบับนี้ ซึ่งอาจจำเป็นต้องเก็บรักษาไว้ต่อไปภายหลังจากนั้น หากมีกฎหมายกำหนดไว้ บริษัทฯจะลบ ทำลาย หรือทำให้เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของคุณได้ เมื่อหมดความจำเป็นหรือสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว

ภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ผู้ใช้งานหรือผู้ใช้บริการมีสิทธิในการดำเนินการดังต่อไปนี้

- สิทธิขอถอนความยินยอม (right to withdraw consent) หากผู้ใช้งานหรือผู้ใช้บริการได้ให้ความยินยอม เราจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานหรือผู้ใช้บริการ ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่ให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น ผู้ใช้งานหรือผู้ใช้บริการมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดเวลา

- สิทธิขอเข้าถึงข้อมูล (right to access) ผู้ใช้งานหรือผู้ใช้บริการมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของคุณที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทฯ และขอให้บริษัทฯ ทำสำเนาข้อมูลดังกล่าวให้แก่คุณ รวมถึงขอให้เปิดเผยว่าบริษัทฯได้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานหรือผู้ใช้บริการมาได้อย่างไร มีสิทธิตรวจดูความมีอยู่ ลักษณะของข้อมูลส่วนบุคคล วัตถุประสงค์ของการนำข้อมูลไปใช้ของบริษัทฯ อย่างไรก็ตามบริษัทฯอาจปฏิเสธสิทธิของผู้ใช้งานหรือผู้ใช้บริการได้ในกรณีที่กฎหมายกำหนด หรือในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานหรือผู้ใช้บริการถูกทำให้ไม่ปรากฏชื่อหรือสิ่งบอกลักษณะอันสามารถระบุตัวผู้ใช้งานหรือผู้ใช้บริการได้อีก

- สิทธิขอถ่ายโอนข้อมูล (right to data portability) ผู้ใช้งานหรือผู้ใช้บริการมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในกรณีที่บริษัทฯได้จัดทำข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบให้สามารถอ่านหรือใช้งานได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค

- สิทธิขอคัดค้าน (right to object) ผู้ใช้งานหรือผู้ใช้บริการมีสิทธิขอคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในเวลาใดก็ได้ หากการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานหรือผู้ใช้บริการที่ทำขึ้นเพื่อการดำเนินงานที่จำเป็นภายใต้ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น โดยไม่เกินขอบเขตที่ผู้ใช้งานหรือผู้ใช้บริการสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผลหรือเพื่อดำเนินการตามภารกิจเพื่อสาธารณประโยชน์

- สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล (right to erasure/destruction) ผู้ใช้งานหรือผู้ใช้บริการมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของคุณหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวคุณได้ หากผู้ใช้งานหรือผู้ใช้บริการเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของคุณถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือเห็นว่าบริษัทฯ หมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ หรือเมื่อผู้ใช้งานหรือผู้ใช้บริการได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิขอคัดค้านตามที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้ว

- สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล (right to restriction of processing) ผู้ใช้งานหรือผู้ใช้บริการมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวในกรณีที่เราอยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอคัดค้านของคุณหรือกรณีอื่นใดที่เราหมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานหรือผู้ใช้บริการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องแต่คุณขอให้บริษัทฯ ระงับการใช้แทน

- สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล (right to rectification) หากผู้ใช้งานหรือผู้ใช้บริการเห็นว่า ข้อมูลส่วนบุคคลใดที่เกี่ยวกับตนไม่ถูกต้องตามที่เป็นจริง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ ผู้ใช้งานหรือผู้ใช้บริการสามารถแจ้งให้บริษัทฯ เปลี่ยนแปลง แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้ถูกต้อง และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดหรือลบข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งหมดหรือแต่บางส่วนนั้นได้

- สิทธิร้องเรียน (right to lodge a complaint) ผู้ใช้งานหรือผู้ใช้บริการมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากคุณเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ เป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ผู้ใช้งานหรือผู้ใช้บริการสามารถใช้สิทธิของคุณในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้นได้ โดยติดต่อมาที่เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเราตามรายละเอียดท้ายนโยบายนี้ บริษัทฯจะแจ้งผลการดำเนินการภายในระยะเวลา 30 วัน นับแต่วันที่บริษัทฯได้รับคำขอใช้สิทธิจากผู้ใช้งานหรือผู้ใช้บริการ ตามแบบฟอร์มหรือวิธีการที่ทางบริษัทฯ กำหนด ทั้งนี้ หากบริษัทฯ ปฏิเสธคำขอบริษัทจะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ผู้ใช้งานหรือผู้ใช้บริการทราบผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น ข้อความ (SMS) อีเมล โทรศัพท์ จดหมาย เป็นต้น

บริษัทฯ จะรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานหรือผู้ใช้บริการไว้ตามหลักการ การรักษาความลับ (confidentiality) ความถูกต้องครบถ้วน (integrity) และสภาพพร้อมใช้งาน (availability) ทั้งนี้ เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผย

นอกจากนี้บริษัทฯ จะจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งครอบคลุมถึงมาตรการป้องกันด้านการบริหารจัดการ (administrative safeguard) มาตรการป้องกันด้านเทคนิค (technical safeguard) และมาตรการป้องกันทางกายภาพ (physical safeguard) ในเรื่องการเข้าถึงหรือควบคุมการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคล (access control)

บริษัทฯ มีระเบียบ คำสั่ง ให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลปฏิบัติหน้าที่ตาม ระเบียบ คำสั่ง ที่กำหนดไว้ เพื่อให้การดำเนินงานตามแนวนโยบายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไปตามมาตรฐานของประกาศฉบับนี้ ผู้ควบคุมข้อมูลมีหน้าที่ปฏิบัติตามนโยบายเรื่องการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลสารสนเทศของบริษัทฯด้วย

นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ใช้สำหรับการเสนอสินค้า บริการ และการใช้งานบนเว็บไซต์สำหรับลูกค้าของบริษัทฯ เท่านั้น หากผู้ใช้งานหรือผู้ใช้บริการให้ข้อมูลกับบริษัทหรือบุคคลอื่นที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทฯ หรือเข้าชมเว็บไซต์อื่นแม้จะผ่านช่องทางเว็บไซต์ของบริษัทฯ การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลต่าง ๆ จะเป็นไปตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของบริษัทหรือเว็บไซต์นั้น ซึ่งบริษัทฯ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย

บริษัทฯ อาจแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายนี้เป็นครั้งคราว โดยผู้ใช้งานหรือผู้ใช้บริการสามารถทราบข้อกำหนดและเงื่อนไขนโยบายที่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนี้ได้ผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัทฯ นโยบายนี้แก้ไขล่าสุดและมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม 2564

บริษัทฯ มีนโยบายปฏิบัติตามกฏหมายรวมถึงประกาศ คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สิทธิในความเป็นส่วนตัว และกฏหมายที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงออกมาตรการคุ้มครองข้อมูลผู้ใช้บริการ
หากผู้ใช้งานหรือผู้ใช้บริการต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ รวมถึงการขอใช้สิทธิต่าง ๆ คุณสามารถติดต่อบริษัทฯ หรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ ได้ ดังนี้

ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท ยูนิทีวีเวล จำกัด
6,8,10 ซ. โชคชัย 4 ซ. 84 แยก 2 ถ. โชคชัย 4 ลาดพร้าว ลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร 10230
อีเมล itm@unitywewell.com
เว็บไซต์ www.unitywewell.com
หมายเลขโทรศัพท์ 02-578-6152-5

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
6,8,10 ซ. โชคชัย 4 ซ. 84 แยก 2 ถ. โชคชัย 4 ลาดพร้าว ลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร 10230
อีเมล itm@unitywewell.com
หมายเลขโทรศัพท์ 02-578-6152 #327